แนวคิดตามทฤษฎีจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ ของจุง(Jung’s
Analytical Psychology)
ประวัติ
ประวัติของคาร์ล กุสตาฟ จุง (Carl Gustav Jung. 1875-1961) จุง กิดเมื่อวันที่ 26
กรกฏาคม ค.ศ. 1875 ที่เมือง Kesswyl ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายา 1961 เขาสาเร็จพทย์จากมหาวิทยาลัยบาเซิล (University
of Basel) จุงมีความเชื่อในเรื่องของจิตไร้สานึกซึ่งสะสมมาแต่อดีต (Collective
Unconscious) หรือประสบการณ์ในจิตไร้สานึก (Personal
Unconscious และจุงยังเสนอบุคลิกภาพ 2 แบบ คือ
แบบเปิดตัว (Extraversion) และแบบเก็บตัว (Introversion)
พร้อมกับแง่คิดในเรื่องรูปลักษณ์ (Archetype) ปม
(Complex) และสัญลักษณ์ (Symbol) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่
1 จุงรับราชการเป็นแพทย์ของกองทัพบก ต่อมาในปี ค.ศ. 1933,1936
– 1940 ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ประจามหาวิทยาลัยที่ซูริกและบาเซิล
เขาได้รับเชิญเป็นองค์ปาฐกตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
นอกจากเป็นนักจิตวิทยาแล้วจุงยังได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการศึกษาด้วย
เขาได้เขียนหนังสือและบทความหลายเรื่อง
โครงสร้างของบุคลิกภาพของ Jung มีดังนี้
1. ตัวตน (Ego) อีโก้ของ
Jung ฯนคล้ายกับอีโก้ของ Freud ตรงที่เป็นส่วนที่รับรู้ข้อมูลและเป็นส่วนที่มีสติสัมปชัญญะ
เป็นส่วนของความเข้าใจ ความจำ
และระลึกรู้ในการแสดงพฤติกรรมตลอดจนความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์
2. จิตใต้สำนึก ประกอบด้วย Personal
Unconscious คือ ประสบการณ์ทั้งหมดที่ถูกเก็บกด ถูกลืม
หรืออ่อนแอเกินที่จะกระตุ้นความรู้สึก และ เป็นประสบการณ์ของแต่ละบุคคล เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
การจินตนาการ และ Collective Unconscious คือ
กระบวนการทางจิตใต้สำนึกที่สั่งสมลักษณะบุลิกภาพของมนุษย์หลายต่ออายุคน
3.จิตไร้สำนึกที่สะสมมาแต่อดีตกาล
(Collective Unconscious) เป็นเสมือนที่รวบรวม
และสะสมความทรงจำที่ซ่อนอยู่ภายใน และติดตาม สืบต่อ ตลอดจน
ตกทอดเป็นมรดกจากบรรพบุรุษJung อธิบายว่า
เมื่อย้อนหลังกลับไปในอดีตชาติใดๆ ก็ตามมนุษย์ย่อมได้รับสิ่งต่างๆ จากแม่
ซึ่งทำให้มนุษย์เกิดความสมบูรณ์
และมีศักยภาพประสบการณ์ระหว่างแม่กับทารกจะถูกถ่ายทอดกัน และสร้างเป็น
รูปแบบในสมองของมนุษย์ตกทอดสืบต่อกัน มานานตั้งแต่อดีตชาติ ดังนั้น ปรากฏการณ์เหล่านี้จึงทำให้ทารกเกิดมาพร้อมกับ
ความสามารถที่จะมองเห็น และพัฒนาความสามารถ ในการรับรู้ และโต้ตอบกับแม่
โดยผ่านประสบการณ์ และการฝึกหัด ในชาติปัจจุบัน
โดยมีรากฐานมาจากอดีตชาติเป็นพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลัง
4. หน้ากาก(Persona) เป็นสิ่งที่ตัวละครใช้สวมไว้
เพื่อแสดงบทบาทต่างๆใน การแสดงหน้ากากยังแสดงปฏิกิริยา หรือตอบโต้กับ ข้อเรียกร้อง
ทางสังคม และขนบธรรมเนียมประเพณีแต่ในเวลาเดียวกัน หน้ากากก็มีส่วนเสีย
เพราะทำให้บุคคลเรียนรู้ที่จะปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้
5. ลักษณะของหญิงที่มีอยู่ในชาย (Anima) และลักษณะของชายที่มีอยู่ในหญิง (Animus)หรืออาจเรียกว่าลักษณะเพศแฝงเร้น
ซึ่งเป็นการอธิบายถึงลักษณะความเป็นหญิงในบุคลิกภาพของผู้ชาย เช่น ความอ่อนโยน
ความนิ่มนวล เป็นต้นลักษณะความเป็นหญิง ที่มักแฝงไว้ในชาย (Anima) และลักษณะความเป็นชายในบุคลิกภาพของผู้หญิง เช่น ความเข้มแข็ง
ความเด็ดเดี่ยว ที่มักแฝงไว้ในตัวหญิงเช่นกัน
6. เงา (Shadow) เป็นรูป (Archetypes) เป็นสิ่งที่เรียกว่า
สัญชาตญาณพื้นฐานที่มีคล้ายกับสัตว์พฤติกรรมที่ยังไม่ได้ขัดเกลา
หรือพฤติกรรมที่แสดงความรู้สึกก้าวร้าว พฤติกรรมที่เป็นศัตรูกับผู้อื่น
หรือเป็นพฤติกรรม ที่ไม่น่าชื่นชมรวมถึงความคิด ความรู้สึก
และการกระทำที่สังคมไม่ยอมรับ
Jung ได้แบ่งบุคลิกภาพเป็น
3 ประเภท คือ
1. ลักษณะของบุคลิกภาพแบบเก็บตัว (Introvert) มีลักษณะไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเท่ากับตนเอง ชอบคิด
ทำอะไรเงียบๆคนเดียว
ไม่ชอบเข้าสังคม อารมณ์อ่อนไหวง่าย เก็บความทุกข์ไว้กับตนเอง ไม่มีความมั่นใจในตนเอง
หากบุคคลมีลักษณะดังกล่าวมากจะมีโอกาสเกิดความผิดปกติทางจิต ทางอารมณ์
และมีผลกระทบต่อบุคลิกภาพได้มาก
2. ลักษณะของบุคลิกภาพแบบเปิดเผย (Extrovert) มีลักษณะตรงกันข้ามกับพวกเก็บตัวสนใจสิ่งแวดล้อม ชอบเข้าสังคม เปิดเผย มีเพื่อนมาก
ไม่ชอบเก็บความทุกข์
แต่จะพูดระบายให้คนอื่นจนหมด
มักจะสนใจเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกมากกว่าสนใจในเรื่องของตน
3.ลักษณะบุคลิกภาพแบบกลางๆ (Ambivert) ก้ำกึ่งระหว่างแบบเก็บตัวและแบบเปิดเผย
ซึ่งเป็นบุคลิกภาพที่พอเหมาะสามารถปรับตัวอยู่ได้ในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
จุง
ยังได้เน้นว่า
การพัฒนาของบุคลิกภาพมีเป้าหมายสูงสุด
คือ
ให้บุคคลเข้าใจตนเองเพื่อจะได้พัฒนาตนเองได้โดยไม่หยุดยั้ง
และมีเรื่องของพันธุกรรมเป็นตัวที่มีบทบาทสำคัญ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานของสัญชาตญาณและสืบเผ่าพันธุ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น