วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

แนวคิดตามทฤษฎีจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ ของจุง(Jung’s Analytical Psychology)



แนวคิดตามทฤษฎีจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ ของจุง(Jung’s Analytical Psychology)




ประวัติ

ประวัติของคาร์ล กุสตาฟ จุง (Carl Gustav Jung. 1875-1961) จุง กิดเมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม ค.ศ. 1875 ที่เมือง Kesswyl ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายา 1961 เขาสาเร็จพทย์จากมหาวิทยาลัยบาเซิล (University of Basel) จุงมีความเชื่อในเรื่องของจิตไร้สานึกซึ่งสะสมมาแต่อดีต (Collective Unconscious) หรือประสบการณ์ในจิตไร้สานึก (Personal Unconscious และจุงยังเสนอบุคลิกภาพ 2 แบบ คือ แบบเปิดตัว (Extraversion) และแบบเก็บตัว (Introversion) พร้อมกับแง่คิดในเรื่องรูปลักษณ์ (Archetype) ปม (Complex) และสัญลักษณ์ (Symbol) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 จุงรับราชการเป็นแพทย์ของกองทัพบก ต่อมาในปี ค.ศ. 1933,1936 – 1940 ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ประจามหาวิทยาลัยที่ซูริกและบาเซิล เขาได้รับเชิญเป็นองค์ปาฐกตามมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากเป็นนักจิตวิทยาแล้วจุงยังได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการศึกษาด้วย เขาได้เขียนหนังสือและบทความหลายเรื่อง

โครงสร้างของบุคลิกภาพของ Jung มีดังนี้

     1. ตัวตน (Ego) อีโก้ของ Jung ฯนคล้ายกับอีโก้ของ Freud ตรงที่เป็นส่วนที่รับรู้ข้อมูลและเป็นส่วนที่มีสติสัมปชัญญะ เป็นส่วนของความเข้าใจ ความจำ และระลึกรู้ในการแสดงพฤติกรรมตลอดจนความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์
             2. จิตใต้สำนึก ประกอบด้วย Personal Unconscious คือ ประสบการณ์ทั้งหมดที่ถูกเก็บกด ถูกลืม หรืออ่อนแอเกินที่จะกระตุ้นความรู้สึก และ เป็นประสบการณ์ของแต่ละบุคคล เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล การจินตนาการ และ Collective Unconscious คือ กระบวนการทางจิตใต้สำนึกที่สั่งสมลักษณะบุลิกภาพของมนุษย์หลายต่ออายุคน
             3.จิตไร้สำนึกที่สะสมมาแต่อดีตกาล (Collective Unconscious) เป็นเสมือนที่รวบรวม และสะสมความทรงจำที่ซ่อนอยู่ภายใน และติดตาม สืบต่อ ตลอดจน ตกทอดเป็นมรดกจากบรรพบุรุษJung อธิบายว่า เมื่อย้อนหลังกลับไปในอดีตชาติใดๆ ก็ตามมนุษย์ย่อมได้รับสิ่งต่างๆ จากแม่ ซึ่งทำให้มนุษย์เกิดความสมบูรณ์ และมีศักยภาพประสบการณ์ระหว่างแม่กับทารกจะถูกถ่ายทอดกัน และสร้างเป็น รูปแบบในสมองของมนุษย์ตกทอดสืบต่อกัน มานานตั้งแต่อดีตชาติ ดังนั้น ปรากฏการณ์เหล่านี้จึงทำให้ทารกเกิดมาพร้อมกับ ความสามารถที่จะมองเห็น และพัฒนาความสามารถ ในการรับรู้ และโต้ตอบกับแม่ โดยผ่านประสบการณ์ และการฝึกหัด ในชาติปัจจุบัน โดยมีรากฐานมาจากอดีตชาติเป็นพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลัง                                                                                                 
        4. หน้ากาก(Persona) เป็นสิ่งที่ตัวละครใช้สวมไว้ เพื่อแสดงบทบาทต่างๆใน การแสดงหน้ากากยังแสดงปฏิกิริยา หรือตอบโต้กับ ข้อเรียกร้อง ทางสังคม และขนบธรรมเนียมประเพณีแต่ในเวลาเดียวกัน หน้ากากก็มีส่วนเสีย เพราะทำให้บุคคลเรียนรู้ที่จะปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้
         5. ลักษณะของหญิงที่มีอยู่ในชาย (Anima) และลักษณะของชายที่มีอยู่ในหญิง (Animus)หรืออาจเรียกว่าลักษณะเพศแฝงเร้น ซึ่งเป็นการอธิบายถึงลักษณะความเป็นหญิงในบุคลิกภาพของผู้ชาย เช่น ความอ่อนโยน ความนิ่มนวล เป็นต้นลักษณะความเป็นหญิง ที่มักแฝงไว้ในชาย (Anima) และลักษณะความเป็นชายในบุคลิกภาพของผู้หญิง เช่น ความเข้มแข็ง ความเด็ดเดี่ยว ที่มักแฝงไว้ในตัวหญิงเช่นกัน
                6. เงา (Shadow) เป็นรูป (Archetypes) เป็นสิ่งที่เรียกว่า สัญชาตญาณพื้นฐานที่มีคล้ายกับสัตว์พฤติกรรมที่ยังไม่ได้ขัดเกลา หรือพฤติกรรมที่แสดงความรู้สึกก้าวร้าว พฤติกรรมที่เป็นศัตรูกับผู้อื่น หรือเป็นพฤติกรรม ที่ไม่น่าชื่นชมรวมถึงความคิด ความรู้สึก และการกระทำที่สังคมไม่ยอมรับ


Jung ได้แบ่งบุคลิกภาพเป็น 3 ประเภท คือ

1. ลักษณะของบุคลิกภาพแบบเก็บตัว  (Introvert)  มีลักษณะไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเท่ากับตนเอง  ชอบคิด  ทำอะไรเงียบๆคนเดียว  ไม่ชอบเข้าสังคม  อารมณ์อ่อนไหวง่าย  เก็บความทุกข์ไว้กับตนเอง  ไม่มีความมั่นใจในตนเอง  หากบุคคลมีลักษณะดังกล่าวมากจะมีโอกาสเกิดความผิดปกติทางจิต  ทางอารมณ์  และมีผลกระทบต่อบุคลิกภาพได้มาก
2. ลักษณะของบุคลิกภาพแบบเปิดเผย  (Extrovert)  มีลักษณะตรงกันข้ามกับพวกเก็บตัวสนใจสิ่งแวดล้อม  ชอบเข้าสังคม เปิดเผย  มีเพื่อนมาก  ไม่ชอบเก็บความทุกข์  แต่จะพูดระบายให้คนอื่นจนหมด  มักจะสนใจเหตุการณ์ต่างๆ  ที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกมากกว่าสนใจในเรื่องของตน
3.ลักษณะบุคลิกภาพแบบกลางๆ  (Ambivert)  ก้ำกึ่งระหว่างแบบเก็บตัวและแบบเปิดเผย  ซึ่งเป็นบุคลิกภาพที่พอเหมาะสามารถปรับตัวอยู่ได้ในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
จุง  ยังได้เน้นว่า  การพัฒนาของบุคลิกภาพมีเป้าหมายสูงสุด  คือ  ให้บุคคลเข้าใจตนเองเพื่อจะได้พัฒนาตนเองได้โดยไม่หยุดยั้ง  และมีเรื่องของพันธุกรรมเป็นตัวที่มีบทบาทสำคัญ  ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานของสัญชาตญาณและสืบเผ่าพันธุ์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น